ต้องใช้บล็อกกระแทกแรงบิดสูงขนาดไหนสำหรับล้อรถกระบะ
ถ้าใครเคยพยายามถอดน็อตล้อรถกระบะหรือรถบรรทุกเล็ก คุณคงทราบดีว่ามันไม่ได้ง่ายเสมอไป หากไม่มีบล็อกกระแทก (Impact Wrench) เราจะยังสามารถขันหรือถอดน็อตล้อรถกระบะได้ก็จริงแต่ต้องใช้วิธีที่เหมาะสมและเครื่องมือที่ถูกต้องเพื่อเอาชนะแรงขันที่แน่นมาก อีกทั้งยังต้องมีเทคนิคการเพิ่มแรงบิด รวมถึงอาจต้องใช้สารหล่อลื่นหากน็อตติดแน่นหรือเป็นสนิม อย่างไรก็ตาม การใช้บล็อกกระแทกจะทำให้งานง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้นทันตา โดยเฉพาะหากคุณต้องถอดล้อบ่อย ๆ การลงทุนในบล็อกกระแทกก็เป็นสิ่งคุ้มค่า
คุณอาจสงสัยว่าแรงบิดของบล็อกกระแทกที่ใช้อยู่นั้นเพียงพอหรือไม่ สำหรับรถกระบะมักใช้น็อตล้อที่มีแรงบิดสูงกว่ารถยนต์ทั่วไป ดังนั้นจึงต้องเลือกบล็อกกระแทกที่มีแรงบิดมากพอและมีคุณสมบัติที่เหมาะสมดังนี้
รถปิกอัพขนาดเล็ก เช่น Toyata Hilux, Isuzu D-Max
• ใช้บล็อกกระแทกไฟฟ้าแบบไร้สายที่มีแรงบิด 400-500 ฟุต-ปอนด์
• หัวบล็อกขนาด ½ นิ้ว
รถกระบะขนาดใหญ่ เช่น Ford Ranger, Chevrolet Colorado
• ใช้บล็อกกระแทกแบบลมที่มีแรงบิด 500 – 800 ฟุต-ปอนด์ 500-800 ฟุต-ปอนด์
• หัวบล็อกขนาด ½ นิ้ว หรือ ¾ นิ้ว
รถกระบะสำหรับบรรทุกหนักหรือดัดแปลง เช่น รถที่ใส่ยางขนาดใหญ่
• ใช้บล็อกกระแทกแบบลมที่มีแรงบิด 800 – 1,000 ฟุต-ปอนด์
• หัวบล็อกขนาด ¾ นิ้ว
การเลือกบล็อกกระแทกให้เหมาะสมให้พิจารณาจากขนาดของน็อตล้อ (Lug Nut) เพราะน็อตล้อที่ใหญ่กว่ามักต้องการแรงบิดที่สูงขึ้นตามลำดับ เช่น น็อตขนาด 19 มม. (3/4นิ้ว) เหมาะกับแรงบิด 300 – 500 ฟุต-ปอนด์ , น็อตขนาด 21 มม. (7/8นิ้ว) ต้องการแรงบิดสูงถึง 800 ฟุต-ปอนด์
ประเภทของบล็อกกระแทก
บล็อกกระแทกไฟฟ้าไร้สาย : เหมาะกับงานทั่วไปในบ้านหรือใช้พกพาไปไหนได้สะดวก ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 100 – 1,500 นิวตันเมตรหรืออาจจะมากขึ้นไปได้อีก ขึ้นอยู่กับรุ่น ซึ่งก็นับได้ว่ามีแรงบิดเพียงพอสำหรับงานทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการประกอบชิ้นส่วนหรือการถอดน็อตล้อรถแล้ว เนื่องจากไม่มีสายต่อจึงสามารถใช้งานได้ทุกที่ แต่ต้องคอยชาร์จแบตเตอรี่ ราคาตัวเครื่อง รวมแบตเตอรี่และเครื่องชาร์จสูงกว่าในกลุ่มเริ่มต้น
บล็อกกระแทกแบบลม : ใช้พลังงานจากเครื่องปั๊มลม แรงบิดสูงสุดกว่าไฟฟ้าไร้สายในบางรุ่น มีแรงบิดตั้งแต่ 500 – 3,000 นิวตันเมตร การใช้งานจะต้องตั้งไว้ใกล้กับเครื่องปั๊มลมให้ทำงานคู่กันเสมอจึงทำให้มีข้อจำกัดในระยะการใช้งาน ถึงแม้น้ำหนักโดยรวมจะเบากว่าบล็อกกระแทกไฟฟ้าแต่เพราะมีสายลมพ่วงมาด้วยจึงอาจเพิ่มความยุ่งยากและเกะกะในการทำงานอยู่บ้าง หากคุณแน่ใจว่าต้องใช้งานหนักก็แนะนำบล็อกกระแทกแบบลมเพราะมีอายุการใช้งานทนทานกว่า แต่ก็แลกมาด้วยการที่ต้องดูแลปั๊มลมด้วยการเติมน้ำมันหล่อลื่นและระบายน้ำเป็นประจำ บล็อกกระแทกแบบลมมีราคาถูกกว่าแต่ต้องลงทุนในเครื่องปั๊มลมแยกต่างหาก เหมาะสำหรับงานหนักในอู่ซ่อมรถ งานซ่อมบำรุงขนาดใหญ่ หรืองานอุตสาหกรรม
ข้อควรระวังในการเลือกใช้
ผลขอการใช้แรงบิดต่ำเกินไป น็อตไม่แน่นพอ ทำให้สกรูอาจหลุดหรือคลายตัวระหว่างขับขี่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ อีกทั้งการขันน็อตที่ไม่แน่นพอจะทำให้เกิดการสั่นสะเทือนระหว่างการใช้งาน จะส่งผลให้น็อตเสื่อมสภาพหรือหลุดเร็วขึ้น
แต่หากใช้แรงบิดสูงเกินไปก็อาจทำให้สกรูรูด เสียหาย หรือแตกหักได้ หรือแรงกัดดันที่สูงเกินไปอาจส่งผลทำให้วัสดุรอบน็อต เช่น ล้อรถ หรือ ตัวเฟรม แตก บิ่น บิดงอได้ นอกจากนี้หากขันแน่นเกินไปจะทำให้ยากต่อการถอด และทำให้ชิ้นส่วนรับแรงเกินความจำเป็นจนเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควรอีกด้วย
การเลือกและใช้งานบล็อกกระแทกที่เหมาะสมกับล้อรถกระบะไม่เพียงแต่ช่วยให้งานสะดวกและรวดเร็วขึ้น แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงในการทำให้ชิ้นส่วนเสียหายจากแรงบิดที่ไม่เหมาะสมได้อีกด้วย หากคุณต้องถอดล้อหรือขันน็อตเป็นประจำ การลงทุนในบล็อกกระแทกที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านแรงบิด ขนาดหัวบล็อก และประเภทที่เหมาะสมกับการใช้งาน จะช่วยให้คุณทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ท้ายที่สุด อย่าลืมตรวจสอบคู่มือรถและใช้งานเครื่องมืออย่างระมัดระวังเสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาจากแรงบิดผิดพลาด ไม่ว่าจะเป็นการขันแน่นเกินไปหรือหลวมเกินไป การรู้จักเลือกและใช้เครื่องมือที่เหมาะสมจะช่วยให้การบำรุงรักษารถของคุณเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัยทุกครั้งที่ใช้งาน
Thanks for subscribing!
This email has been registered!
สินค้า | SKU | Rating | Description | Collection | Availability | Product Type | Other Details |
---|